เปิดตัวเปิดหัวใจเปิดราคา MAZDA CX-3 มาครบเบนซินและดีเซล

หลังจากเปิดตัวไปแล้วในอเมริกา ยุโรปและญี่ปุ่น ล่าสุด Mazda Sales Thailand ก็ได้ฤกษ์เปิดผ้าคลุมสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดสวย Mazda CX-3 เป็นการสานต่อเทคโนโลยี Skyactiv จากรถครอสโอเวอร์รุ่นพี่อย่าง Mazda XCX-5 ด้วยเรือนร่างที่เล็กกะทัดรัดเหมาะสมกับครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่มีรูปแบบโฉบเฉี่ยว หลักใหญ่ใจความในการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีในยานยนต์รุ่น Mazda CX-3 พุ่งประเดนไปที่เทคโนโลยีใหม่ของระบบขับเคลื่อน รวมถึงรูปแบบของห้องโดยสารและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Mazda CX-3 อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ SkyActiv ไล่จากโครงสร้างตัวถัง แชสซี เปลือกตัวถัง เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย ปรัชญางานออกแบบ KODO Design Soul of Motion สืบสานความงามบนเรือนร่างที่สมส่วนลงตัวโดยถ่ายทอดเส้นสายจากรุ่นสู่รุ่นเริ่มด้วย Mazda 6 / Mazda 3 / Mazda CX-5 / Mazda 2 / Mazda MX-5 (ND) รถรุ่นใหม่จากแบรนด์ Zoom Zoom ทุกคันในทุกวันนี้ นอกจากความใส่ใจในขั้นตอนของการออกแบบและพัฒนา ยังใส่อารมณ์เดิมของ Zoom Zoom เอาไว้อย่างครบครัน ด้วยความสนุกหลังพวงมาลัยและรูปลักษณ์ที่มีความสอดคล้องกันในทุกโมเดล ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า กระจังหน้า ทรงของตัวถังด้านข้างที่พลิ้วไหวไหลลื่น หลอมรวมขึ้นจนเป็นรถยนต์ที่มีความน่าใช้งานแตกต่างไปจากรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั่วๆ ไป

Mazda CX-3 จัดอยู่ในกลุ่ม Sport-Crossover ไซส์เล็กกะทัดรัดด้วยการแชร์แพลตฟอร์มร่วมกับ Mazda 2 ขนาดที่เล็กกว่า Mazda CX-5 ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในเขตเมืองแต่ก็มีความสามารถในการวิ่งระยะไกลได้ดีเทียบเท่า CX-5 ผู้พี่ จากการดีไซน์ห้องโดยสารโดยเฉพาะตำแหน่งของคนขับ Mazda CX-3 วางดีไซน์ของกระจังหน้าในรูปแบบเดียวกันทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่รถรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกขายในปี 2015-2016 กระจังหน้าแบบใหม่มีชื่อเรียกว่า Signature Wing สะท้อนสไตล์และแนวทางของการดีไซน์จากรุ่นสู่รุ่นไล่จาก Mazda 6 Mazda 3 Mazda CX-5 Mazda 2 Mazda MX-5 (ND) จะเห็นว่ากระจังหน้าแบบใหม่นี้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์ทุกโมเดล นอกจากเปลือกตัวถังที่สวยงามแล้ว ภายในห้องโดยสารของ CX-3 ยังมีการเพิ่มเติมความน่าใช้งานด้วยการออกแบบคอนโซล เบาะ และปรับวัสดุพวกพลาสติกที่ใช้สำหรับงานตกแต่งภายในให้ดูดีขึ้น ในรุ่นสูงสุดของ CX-3 มีการยกระดับคุณภาพของงานประกอบจนเกือบจะเทียบชั้นกับรถยุโรปราคาแพง ด้วยการเพิ่มเติมความหรูหราของพลาสติกและหนังให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า การปรับปรุงห้องโดยสารด้วยการนำเอาห้องโดยสารของ Mazda 2 และ Mazda 3 มาปรับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความลงตัวสมบูรณ์แบบในการใช้งานยานยนต์สไตส์ครอสโอเวอร์

มิติตัวถังของ Mazda CX-3 มีความกว้าง 1,766 มิลลิเมตร ยาว 4,275 มิลลิเมตร และสูงแบบยานยนต์ครอสโอเวอร์ที่ 1,535 มิลลิเมตร ตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า CX-3 ถูกปรับยืดให้มีสัดส่วนของตัวถังกว้างและสูงกว่า Mazda 2 อยู่พอสมควรแต่ยังคงมีความยาวของตัวรถสั้นกว่า Mazda 3 เล็กน้อย ระยะห่างฐานล้อหน้า-หลัง 2,570 มิลลิเมตร น้อยกว่า CX-5 ผู้พี่อยู่ถึง 130 มิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างใต้ท้องรถถึงพื้น 155 มิลลิเมตร ช่วยให้การลุยเหนือกว่ารถเก๋งเล็กทั่วไป โอเวอร์แฮงก์ที่ออกแบบให้สั้นกระชับทำให้การควบคุมมีความคล่องตัวไม่แตกต่างไปจาก Mazda 2 พื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มเข้ามามากกว่ารถเล็กในค่ายด้วยปริมาตรความจุ 350 ลิตรบนรูปแบบการใส่สัมภาระที่ยังไม่มีการพับเบาะหลัง และเมื่อพับเบาะผู้โดยสารตอนหลังลงราบกับพื้น จะมีพื้นที่ในการขนของ 1,260 ลิตร มากพอที่จะยัดจักรยานและกระเป๋าหรือสัมภาระชิ้นโตได้อย่างสบายๆ

การเปิดตัว New CX-3 ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยนั้น Mazda Sales Thailand จัดเครื่องยนต์ให้ลูกค้า Zoom Zoom ได้เลือกถึงสองแบบสองสไตส์เหมือนเดิม เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV - G และเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กสมรรถนะสูงอย่าง SKYACTIV - D โดยเริ่มจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบกำลัง 120 แรงม้ากับแรงบิด 205 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเครื่องแบบดีเซลแถวเรียง 1.5 ลิตรเทอร์โบ คลีนดีเซล ที่ยกมาจาก Mazda 2 กำลัง 105 แรงม้ากับแรงบิด 270 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ควบคุมการทำงานด้วยการถ่ายเทเฉลี่ยแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนหน้า-หลังด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีโครงสร้างของตัวรถจากนวัตกรรม SKYACTIV Body เน้นโครงสร้างที่แข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา มีการตัดโครงสร้างส่วนเกินออกเพื่อลดน้ำหนักโดยโครงสร้างหลักแต่ละส่วนจะทำหน้าที่รับแรงในจุดที่มีความแตกต่างกันโดยเฉพาะจุดที่จะต้องกระจายแรงหากเกิดอุบัติเหตุ โครงสร้างท่อนหน้าและหลังได้รับการออกแบบให้ยุบตัวได้เพื่อคงรูปของห้องโดยสารเอาไว้ให้มากที่สุดเมื่อเกิดการชนปะทะ SKYACTIV Body ใน CX-3 ใช้โครงรถแบบวงแหวนเพื่อคงรูปของห้องโดยสารเมื่อมีแรงเข้ามากระทำ โดยโครงตัวถังแบบวงแหวนจะช่วยซับแรงกระแทกแล้วกระจายแรงไปยังส่วนอื่น CX-3 มีโครงสร้างแบบโมโนค็อก 60% ของโครงรถใช้โลหะเหล็กแบบ High-strength Steels รับแรงได้สูงถึง 440 MPa เสาหน้าหรือเสา A โครงหลังคากับเฟรมที่ยึดติดกับเสากลางถูกออกแบบให้รองรับกับแรงกระแทก 1,180 MPa ขณะเดียวกัน คานหน้าของ CX-3 ก็ยังรับแรงได้มากถึง 1,800 MPa

ห้องโดยสารของ Mazda CX-3 ประกอบด้วยงานออกแบบตกแต่งภายในที่เน้นความเรียบง่ายสวยงามแต่ใช้งานได้จริง และมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเข้ามาอีกเพียบ เบาะแบบสปอร์ตที่โอบกระชับสัดส่วนของผู้ขับบริเวณด้านข้างของตัวเบาะที่บีบกระชับล็อกตัวผู้ขับไม่ให้หลุดออกจากเบาะเมื่อเข้าโค้ง รุ่นสูงสุดเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตรเทอร์โบ มีการตกแต่งด้วยเบาะหนังแท้สีขาวสลับสีดำเดินตะเข็บขอบตรงกลางด้วยสีแดง หรือรุ่นที่ลดหลั่นลงมาซึ่งใช้เบาะผ้าสีดำคล้ายเบาะของสปอร์ตคาร์ราคาแพงจากเยอรมนี ทั้งๆ ที่เป็นรถเอเชีย แต่ Mazda CX-3 ทำตัวราวกับรถครอสโอเวอร์ชั้นนำจากยุโรป ด้วยการอัดอุปกรณ์หรูผนวกเข้ากับรูปแบบของการจัดวางที่ลงตัว ความน่าใช้งานของอุปกรณ์ภายในของ CX-3 เกิดจากความตั้งใจในการคัดเลือกวัสดุเข้ามาตกแต่ง คอนโซลเรียบง่าย ช่องแอร์ทรงกลมที่สวยงาม รุ่นสูงสุดมีจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว และจอภาพสะท้อนแจ้งตัวเลขความเร็ว Hand Up Display มาตรวัดรอบเครื่องยนต์และความเร็วที่ถอดแบบมาจาก Mazda 3 ราวกับห้องโดยสารของเจ้า CX-3 นั้นลอกเลียนแบบมาจาก Cockpit ที่สวยงามน่าใช้งานจาก Mazda 3

ห้องโดยสารของ CX-3 ยังมีส่วนที่คล้ายคลึงกับ Mazda-2 ด้วยการแชร์ชิ้นส่วนภายในร่วมกันเพื่อลดต้นทุน แดชบอร์ด คอนโซล ช่องแอร์ งานพลาสติกและหนังที่ทำออกมาได้ดีมากยังสื่อให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบ รวมถึงความใส่ใจในรายละเอียดแบบลงลึกในทุกตำแหน่ง เบาะโดยสารของ CX-3 รุ่นสูงสุดใช้หนังแท้โทนสีขาวสลับดำ ตัดเย็บอย่างประณีต เบาะหนังของรุ่นท็อปยังมีการแยกใช้วัสดุหนังสองแบบเพื่อเพิ่มเติมความหรูหราให้กับห้องโดยสารแต่ยังใช้การปรับด้วยมือเหมือนกับ Mazda-2 พวงมาลัยแบบสามก้านยกมาทั้งวงจาก Mazda-2 พร้อมสวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ หุ้มด้วยหนังแท้พร้อมรอบวงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปรุ่นสูงสุดของ Mazda CX-3 SkyActiv-G 2.0 มีพวงมาลัยแบบสปอร์ตซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีอุปกรณ์ช่วยขับที่มีความโดดเด่นและใช้งานได้จริง พวงมาลัยยังมีสวิตช์รับหรือวางโทรศัพท์ไร้สาย ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ซุ้มเกียร์ล้อมกรอบด้วยงานพลาสติกสีเงิน ส่วนคันเกียร์หุ้มด้วยหนังแท้ พร้อมหัวเกียร์แบบครึ่งหนังครึ่งโลหะสีเงิน เกียร์ของ Mazda CX-3 เป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบทริปทรอนิกส์ ผู้ขับสามารถตบคันเกียร์ไปที่ด้านขวาสำหรับการชิฟเกียร์ด้วยตัวเองผ่านการโยกคันเกียร์หรือกดเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่แป้น Paddle Shift ถัดจากงานซุ้มเกียร์ที่ลงตัวเป็นที่อยู่ของสวิตช์ควบคุมจอภาพแสดงผล ซึ่งใช้ควบคุมปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงระบบเครื่องเสียงและระบบนำทางผ่านดาวเทียม สวิตช์ควบคุมอุณหภูมิแบบสามปุ่มหมุนถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่ง่ายและเต็มไปด้วยรูปแบบกับผิวสัมผัสที่ดี สวิตช์ปรับอุณหภูมิทรงกลมสามวงยังเข้ากับแผงคอนโซลจากการจงใจในขั้นตอนของงานดีไซน์

ในรุ่นเบนซิน วางเครื่องยนต์ SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ 16 วาล์วพร้อมกลไกวาล์วแปรผันใช้อัตราส่วนกำลังอัดสูงมากถึง 14.0:1 ขับเคลื่อนล้อหน้า มีกำลังในรูปแรงม้าสูงสุดที่ 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที กับแรงบิด 205 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยในและนอกเมืองแบบผสมทำได้ที่ 17 กิโลเมตรต่อลิตร ค่าการปล่อย Co2 ที่ 137 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลของ CX-3 ใช้การยกเครื่องยนต์ดีเซลมาจาก Mazda 2 ทั้งยวง เป็นเครื่องยนต์ SKYACTIV-D ขนาด 1.5 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรความจุเครื่องยนต์ 1,499 ซีซี แบบแถวเรียงสี่กระบอกสูบ 16 วาล์ว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบดีเซลคอมมอลเรล อัตราส่วนกำลังอัด 14.8:1 สร้างแรงม้าสูงสูดได้ 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาท่ี แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที มาตรฐานมลพิษของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรอยู่ที่ระดับ EURO-5 ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ทำได้ถึง EURO-6 ซึ่งในประเทศไทยมีบริษัทผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นเพียงไม่กี่รายรวมถึงบริษัท Mazda ที่สามารถผลิตเครื่องยนต์ที่มีมลพิษต่ำในระดับค่าตัวหนึ่งล้านบาท เนื่องจากเครื่องยนต์ของรถญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นนั้นส่วนใหญ่มีมาตรฐานไอเสียอยู่แค่ EURO-4 เท่านั้น สำหรับอัตราสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ดีเซลใน CX-3 SKYACTIV - D เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เชื้อเพลิง 1 ลิตรไปได้ไกล 19.5 กิโลเมตร ค่าไอเสีย Co2 136 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาเครื่องดีเซลมีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 21 กิโลเมตรต่อลิตร และมีค่าไอเสียการปล่อย Co2 ที่ 123 กรัมต่อ 1 กิโลเมตรตามลำดับ

ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ถือเป็นหัวใจหลักในการถ่ายเทแรงบิดลงไปยังเพลาขับเคลื่อน เกียร์ที่ใช้เทคโนโลยี SKYACTIV Drive ของ Mazda CX-3 มีให้เลือกใช้ทั้งเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดตามความชอบและความถนัดของลูกค้า เป็นการเพิ่มทางเลือกที่กว้างและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่ชอบสับเกียร์เองหรือพวกรักความสบายปล่อยให้เกียร์ทำงานเองแบบออโต้ ในส่วนของเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด SKYACTIV Drive มีการนำเอาจุดเด่นของเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์มาปรับปรุงเพื่อทำให้เกียร์มีการตัดต่อที่นุ่มนวล กระชับและไหลลื่นว่องไวเทียบเคียงกับเกียร์อัตโนมัติแบบทวินคลัตช์และความนวลในการเปลี่ยนเกียร์คล้ายกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

ช่วงล่างอันเป็นหัวใจของรถ Mazda ทุกโมเดลใช้เทคโนโลยี SKYACTIV Chassis โดยมีการปรับการจัดวางรูปทรงทรงเรขาคณิตใหม่หมดเพื่อลดน้ำหนักใต้สปริง ออกแบบให้ช่วงล่างยุบหรือเต้นช้าลงและส่งผลไปถึงการควบคุมกับการนั่งที่สบายตัว แขนยึดทั้งหมดของช่วงล่างไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทหรือทอร์ชั่นบีมในส่วนของช่วงล่างหลัง แขนยึดทั้งหมดจะรักษาการตั้งฉากของหน้ายางกับผิวถนนให้มากที่สุดไม่ว่าล้อจะเต้นขึ้นลง ชุดบังคับเลี้ยวของ Mazda ในปัจจุบันคืองานวิศวกรรมที่ก้าวไกลในการบังคับควบคุมที่ให้ความรู้สึกแท้จริงของการสื่อสารระหว่างตัวรถและคนขับ พวงมาลัยไฟฟ้าแบบมีมอเตอร์ที่ปลายของแรคพวงมาลัย มอเตอร์จะแปรผันไปตามความเร็วของตัวรถ เมื่อขับเร็วขึ้น มอเตอร์จะทำงานน้อยลงจนน้ำหนักของพวงมาลัยในย่านความเร็วสูงส่งถ่ายความมั่นคงให้กับผู้ขับขี่ พวงมาลัย EPSA- Electric Power Steering Assist ของ Mazda ผ่านนวัตกรรม SKYACTIV Chassis ทำให้ Mazda CX-3 มีความฉลาดกว่าพวงมาลัยไฟฟ้าแบบอื่นซึ่งให้น้ำหนักที่เบาหวิวตั้งแต่เริ่มออกตัวไปจนถึงความเร็วสูง จนออกอาการไร้สัมผัสที่ดีในการตอบสนอง กันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตัรท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนกันสะเทือนหลังที่ใช้แบบทอร์ชั่นบีมเนื่องจากต้องการเพิ่มพื้นที่ของห้องเก็บสัมภาระ ช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมที่ไม่กินพื้นที่จึงถูกนำมาปรับใช้กับ Mazda CX-3 ทอร์ชั่นบีมที่ส่วนหลังมีการออกแบบแขนยึดของกันสะเทือนหลังใหม่หมด การกระจายแรงสะเทือนของแขนลิงค์เปลี่ยนไปโดยช่วงล่างของ CX-3 ที่ด้านหลังจะมีการให้ตัวมากกว่าปกติ สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้น ขณะเดียวกัรน โช้คอัพยังรับแรงกระแทกได้ดีขึ้นจากการคำนวณค่าความแข็ง-อ่อนของสปริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วยยืดอายุการใช้งานของลูกหมากลูกยางต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นจากการออกแบบในลักษณะดังกล่าวของเทคโนโลยี SKYACTIV Chassis

i-ACTIVSENSE แนวคิดล่าสุดของการเชื่อมโยงรถยนต์ให้เข้ากับรูปแบบชีวิตประจำวันของมนุษย์ให้มีความปลอดภัยในการใช้งานรถยนต์ Mazda มากยิ่งขึ้น ควบรวมความปลอดภัยทั้งหมดขึ้นตรงต่อหน่วยประมวลผลที่มีการสั่งงานว่องไว ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน Active Safety ซึ่งบางอย่างเป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดมาให้จากโรงงาน ส่วนบางอย่างนั้นมีราคาแพงและต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นออปชั่นเสริม CX-3 ในมาตรการความปลอดภัยของการขับใช้งาน ใช้ระบบ MRCC Mazda Radar Cruise Control ใช้เรดาร์คลื่นความถี่ 76 GHz สแกนการเคลื่อนตัวของรถคันข้างหน้า ระบบนี้สามารถควบคุมได้ทั้งคันเร่งและเบรกแบบอัตโนมัติ ทำงานที่ระดับความเร็ว 30-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบ DRSS Distance Recognition Support System ทำให้ที่รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า ทำงานโดยใช้เรดาร์ชุดเดียวกับระบบ MRCC สัญญาณแจ้งเตือน FOW Forward Obstruction Warning ส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ระวังเมื่อระบบ DRSS ตรวจพบระยะการหยุดที่ไม่ปลอดภัย SBS Smart Brake Support ใช้เรดาร์และกล้องบริเวณมุมบนติดตั้งอยู่กึ่งกลางกระจกบังลมบานหน้าที่ด้านบน ทำหน้าที่ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์คันข้างหน้า พร้อมสั่งงานให้ระบบ FOW Forward Obstruction Warning ทำงานส่งสัญญาณเสียงเตือนเมื่อรถคันข้างหน้าลดความเร็วจนเข้ามาอยู่ในระยะเบรกที่ไม่ปลอดภัย ทำงานที่ความเร็ว 15-145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง SCBS Smart City Brake Support ทำงานที่ย่านความเร็วต่ำเมื่อขับในเมืองโดยใช้เรดาร์พิสัยใกล้ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันข้างหน้า พร้อมสั่งให้ระบบมีการเตรียมพร้อมสำหรับเบรกเมื่อระยะห่างเหลือน้อยกว่า 6 เมตร ระบบนี้จะทำงานที่ความเร็ว 4-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รุ่นและราคา Mazda CX-3
Mazda CX-3 2.0E เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 835,000 บาท
Mazda CX-3 2.0C เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 910,000 บาท
Mazda CX-3 2.0S เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 975,000 บาท
Mazda CX-3 2.0 SP เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 1,045,000 บาท
Mazda CX-3 1.5 XDL ดีเซล เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 1,155,000 บาท

CX-3 2.0 E
ราคา835,000 บาท

- เครื่องยนต์ เบนซิน 2.0L รองรับ E85
- กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 206 นิวตันเมตร
- รุ่นเครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่นมีระบบ Drive Selection
- ความจุถังน้ำมัน 48 ลิตร
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- DSC ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
- TCS ป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล
- ESS ไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน
- ABS 4 ล้อ
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ Push Start Button
- เสาอากาศครีบฉลาม
- ท่อคู่
- ไฟหน้าโปรเจกเตอร์
- ล้ออัลลอยขนาด 16"

CX-3 2.0 C
ราคา 910,000 บาท
- ไฟตัดหมอก
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
- ชุดควบคุมหน้าจอ Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว พร้อม Center Commander
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง

CX-3 2.0 S
ราคา 975,000 บาท
- หน้าจอแสดง Active Driving Display
- ระบบนำทาง Navigation System
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสลับหนัง Alcantara
- ภายในตกแต่งทูโทนสีดำสลับสีแดง
- ล้ออัลลอยขนาด 18" สีรมดำ
- ไฟหน้า Projector Bi-Xenon +Daytime Running Lights
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝน อัตโนมัติ

CX-3 2.0 SP
ราคา 1,045,000 บาท
– ระบบควบคุมไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ High Beam Control (HBC)
– ระบบตรวจจับรถในจุดบอด Blind Spot Monitoring System (BSMS)
– ระบบเตือนให้อยู่ในช่องจราจร Lane Departure Warning (LDW)
– ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
– ระบบเตือนการชนด้านหน้าและชะลอความเร็ว Smart City Brake Support (SCBS)
– ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด
CX-3 รุ่น1.5 XDL เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร
ราคา 1,155,000 บาท
– ระบบควบคุมไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ High Beam Control (HBC)
– ระบบตรวจจับรถในจุดบอด Blind Spot Monitoring System (BSMS)
– ระบบเตือนให้อยู่ในช่องจราจร Lane Departure Warning (LDW)
– ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
– ระบบเตือนการชนด้านหน้าและชะลอความเร็ว Smart City Brake Support (SCBS)
– ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด